ใบงานท่ี 1.1 เข้าวัดกันเถอะ
คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นอ่านเรอ่ื งที่กาหนด แลว้ ตอบคาถาม
วันวสิ าขบูชาปีนพ้ี ่อกับแมพ่ าอ้มไปทาบุญทว่ี ดั ใกล้บา้ น เมอื่ ทาบุญเสร็จแลว้ ก็น่งั ฟังเทศน์ อม้ ไดข้ ้อคดิ
จากการแสดงธรรมวา่ สังคมทีม่ ีแต่คนทมี่ ีความโลภ มกี ารเอารัดเอาเปรยี บน้ัน ย่อมทาให้การอยู่ร่วมกนั
อยา่ งไมป่ กติสุข ระหวา่ งการเดินทางกลับบ้าน อม้ กบั พอ่ แม่ สนทนากัน
อ้ม : หนูชอบมาฟงั ธรรมะที่วดั เพราะไดข้ ้อคดิ ที่ดแี ลว้ เอาไปเล่าให้เพอื่ นๆ ฟัง
เพ่ือนบางคนเขา
ไมค่ อ่ ยได้ ไปวดั หนตู งั้ ใจว่าตอนเย็นจะชวนสม้ และสาว ไปเวียนเทียนทว่ี ัดดว้ ยละ่ และจะ
ได้ฟังธรรมดว้ ย
แม่ : ดีมากที่หนคู ดิ จะชวนเพื่อนไปทาในส่ิงท่ดี ีงาม จัดได้ว่าเป็นกลั ยาณมิตร
อม้ : หนูมีความชนื่ ชมและศรทั ธาพระภกิ ษุสงฆ์ในวดั นที้ กุ รปู ทา่ นปฏิบัติตนนา่ เล่ือมใส และ
เวลาท่านได้รับกิจนิมนต์ไปในพิธีทาบญุ ท่ไี หนกต็ าม ท่านจะบรรยายธรรมะให้คนที่ไปใน
งานบุญนน้ั ได้ขอ้ คดิ ทเี่ ป็นประโยชนต์ อ่ การดาเนนิ ชวี ิต
พ่อ :
พวกเราชาวพุทธทุกคนควรจะศึกษาหลกั ธรรม ทาความเข้าใจและปฏบิ ตั ิตนตามหลกั ธรรม
การฟงั ธรรมะจากพระสงฆ์กเ็ ปน็ วธิ ีเขา้ ถงึ ธรรมะประการหนงึ่
อ้ม : แต่อ้มก็คิดวา่ เรากต็ ้องเขา้ ร่วมพิธีกรรมทางพระพทุ ธศาสนาดว้ ยนะคะ
แม่ : ถกู ตอ้ งจ๊ะ เพราะการเข้าร่วมพิธีกรรมทางพระพทุ ธศาสนาจะทาใหร้ ้จู ุดมุ่งหมายของ
พิธีกรรม รู้ในสง่ิ ทด่ี มี ีประโยชนแ์ ละเปน็ สว่ นหนง่ึ ของการเผยแผ่พระพทุ ธศาสนา
คาถาม
1. บุคคลใดปฏิบัติตนเป็นชาวพุทธท่ีดี จงยกตัวอยา่ งการกระทา
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................
2. นกั เรยี นสามารถนาแนวทางการปฏบิ ตั ติ นเปน็ ชาวพุทธทดี่ ใี นขอ้ 1 ไปปฏิบัตไิ ดอ้ ยา่ งไรบา้ ง
จงยกตวั อยา่ งประกอบ
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
ใบงานที่ 1.1
เรื่อง หน้าที่ชาวพุทธ
คำชี้แจง ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้
1. หน้าที่สำคัญของพระภิกษุ คืออะไร
……………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………..
2. พระนักเทศน์ พระธรรมทูต พระธรรมจาริก พระวิทยากร พระวิปัสสนาจารย์ และพระนักพัฒนา
มีบทบาทสำคัญอย่างไร
……………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………..
3. ถ้านักเรียนมีลูกจ้างในบ้าน หรือมีผู้ทำหน้าที่บริการช่วยเหลือนักเรียนอยู่เสมอ นักเรียนควรปฏิบัติตนต่อ
เขาอย่างไร จึงจะสอดคล้องกับการปฏิบัติตนตามหลักทิศเบื้องล่างในทิศ 6
……………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………..
4. อุบาสกธรรม 7 ได้แก่อะไรบ้าง
……………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………..
5. ปัจจุบันนี้นักเรียนได้ปฏิบัติหน้าที่และบทบาทของอุบาสก อุบาสิกา อย่างเหมาะสมอย่างไรบ้าง
……………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………..
ใบงานที่ 1.1
เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
คำชี้แจง ให้นักเรียนวิเคราะห์วันสำคัญทางพระพุทธศาสนาตามหัวข้อที่กำหนด
ชื่อวันสำคัญ | ตรงกับวัน | หลักธรรม คติธรรมที่เกี่ยวเนื่อง | แนวทางการปฏิบัติตนตามหลักธรรม |
1. วันมาฆบูชา | |||
2. วันวิสาขบูชา | |||
3. วันอัฏฐมีบูชา | |||
4. วันอาสาฬหบูชา |
ชื่อวันสำคัญ | ตรงกับวัน | หลักธรรม คติธรรมที่เกี่ยวเนื่อง | แนวทางการปฏิบัติตนตามหลักธรรม |
5. วันธรรมสวนะ | |||
6. วันเข้าพรรษา | |||
7. วันออกพรรษา และวันตักบาตร เทโว |
แบบประเมินบันทึกการฝึกปฏิบัติตนในการบริหารจิตตามหลักสติปัฏฐาน
ระหว่างวันที่………….เดือน……………………..พ.ศ……………ถึงวันที่…………เดือน………………………พ.ศ……………
ชื่อ…………………………………………………………………………..ชั้น……………………………..เลขที่………………………….
วัน เดือน ปี | รายการปฏิบัติ | ผลที่ได้รับ | ลายมือชื่อ ผู้สังเกตพฤติกรรม |
1 มิ.ย. 52 | ตัวอย่างทำสมาธิก่อนนอน 15 นาที | มีความกังวลบ้างแต่จิตใจสงบขึ้น | |
2 มิ.ย. 52 | ทำสมาธิตอนตื่นนอนเช้า | จิตใจสบาย | |
เกณฑ์การประเมิน
ปฏิบัติได้ 20 ครั้งขึ้นไป = ดีมาก (4)
ปฏิบัติได้ 15-19 ครั้ง = ดี (3)
ปฏิบัติได้ 10-14 ครั้ง = พอใช้ (2)
ปฏิบัติได้ต่ำกว่า 10 ครั้ง = ปรับปรุง (1)
ใบงานที่ 1.1
เรื่อง ประโยชน์ของการบริหารจิต
ตอนที่ 1
คำชี้แจง ให้นักเรียนเขียนแผนผังความคิด เรื่อง ประโยชน์ของการบริหารจิต
ประโยชน์ของ
การบริหารจิตในชีวิตประจำวัน
ตอนที่ 2
คำชี้แจง ให้นักเรียนเขียนอธิบายหรือตอบคำถามในประเด็นที่กำหนด
1. ผู้ที่บริหารจิตอย่างสม่ำเสมอ จะส่งผลดีต่อบุคลิกภาพอย่างไร
2. นักเรียนเล่าประสบการณ์ของตนที่เคยบริหารจิตและประโยชน์ที่ได้รับ
แบบประเมินบทความวิเคราะห์ เรื่อง การนำวิธีคิดแบบแยกแยะองค์ประกอบ
และวิธีคิดแบบวิภัชชวาทไปใช้ในการดำเนินชีวิต
(ชิ้นงานที่ 7.2)
กลุ่มที่……………………..
สมาชิกของกลุ่ม 1. …………………………………. 2. ………………………………….
3. …………………………………. 4. ………………………………….
5. …………………………………. 6. ………………………………….
ลำดับที่ | รายการประเมิน | คุณภาพผลงาน | |||
4 | 3 | 2 | 1 | ||
1 | การคิดแบบแยกแยะองค์ประกอบ | ||||
2 | การคิดแบบวิภัชชวาท | ||||
3 | การเสนอแนวทางการนำวิธีคิดไปใช้ในการดำเนินชีวิต | ||||
รวม |
ลงชื่อ……………………………………………ผู้ประเมิน
…………../………………./…………….
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ช่วงคะแนน | ระดับคุณภาพ |
11-12 9-10 6-8 ต่ำกว่า 6 | ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรุง |
ดีมาก = 4
ดี = 3
เกณฑ์การให้คะแนน
พอใช้ = 2
ปรับปรุง = 1
ใบงานที่ 2.1
เรื่อง คิดเป็น
คำชี้แจง ให้นักเรียนอ่านข่าว แล้วตอบคำถามตามที่กำหนด
ข่าวที่ 1 เกมคอมพิวเตอร์
พ่อแม่หลายท่านอาจจะรู้สึกเป็นกังวลเวลาเห็นเด็กๆ หมกมุ่นอยู่กับเกมคอมพิวเตอร์ เพราะเกรงว่าลูกจะกลายเป็นเด็กติดเกมจนเป็นปัญหาในอนาคต
เรื่องนี้แก้ไขได้ หากวางกฎกติกาในการเล่นเกมอย่างชัดเจน และหากเป็นไปได้พ่อแม่ควรคอยชี้แนะลูกอยู่ใกล้ๆ ด้วย
ความจริงแล้ว เกมคอมพิวเตอร์มีประโยชน์มากมายสำหรับเด็ก “นิตยสารมาเธอร์ & เบบี้” ฉบับเดือน ก.ค. รวบรวมมาฝาก ดังนี้
1. ฝึกการสังเกต การตัดสินใจ
เนื้อหาของเกมจะมีการให้เปรียบเทียบ แยกประเภท หรือตัดสินใจอย่างรวดเร็ว การจะเอาชนะหรือผ่านด่านต่างๆ ได้ ต้องใช้การคิดแก้ปัญหา การสังเกต และตัดสินใจอย่างรวดเร็ว แม้จะเป็นสถานการณ์จำลอง
2. ฝึกภาษา
เกมในปัจจุบันมีหลากหลายที่สนุกและให้ความรู้เรื่องศัพท์ไปพร้อมๆ กัน รวมถึงการได้ออกเสียงชัดเจนและถูกต้อง คุณพ่อคุณแม่ควรอยู่ใกล้ๆ เพื่อสอนคำศัพท์ต่างๆ ไปด้วย
3. เสริมสร้างจินตนาการ
ปัจจุบันมีเกมหลากหลายที่ให้เด็กๆ ได้เลือกเติมแต่งสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเอง เช่น เกมจัดห้อง แต่งตัวตุ๊กตา สร้างสวนสนุก หรือเกมสร้างเมืองจำลอง เด็กจะได้สนุกและคิดฝันตามจินตนาการ
4. เรียนรู้กติกา
เกมในกลุ่มกีฬา เช่น ฟุตบอล เทนนิส บาสเกตบอล กอล์ฟ ฯลฯ จะทำให้ผู้เล่นเข้าใจกฎ กติกา จึงจะเล่นได้ เป็นการปูพื้นฐานให้เด็กทำความรู้จักกับกีฬาประเภทนั้นๆ และหากมีโอกาสคุณพ่อคุณแม่ก็ควรชวนลูกไปเล่นกีฬาที่เขาชอบจากเกม อาจจะทำให้ลูกลืมกีฬาในจอคอมพิวเตอร์ไปเลยก็ได้
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด ฉบับวันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
คำถาม
1. เกมคอมพิวเตอร์มีส่วนในการฝึกภาษาอย่างไร (วิธีคิดแบบแยกแยะองค์ประกอบ)
2. เกมคอมพิวเตอร์มีผลต่อการเล่นกีฬาในเรื่องใด (วิธีคิดแบบแยกแยะองค์ประกอบ)
3. การเล่นเกมคอมพิวเตอร์มีประโยชน์ หรือมีโทษ แยกตอบทีละประเด็น และสรุป (วิธีคิดแบบวิภัชชวาท)
ข่าวที่ 2 มัคคุเทศก์น้อยพาชมแห่เทียนเมืองอุบลฯ
กลุ่มเยาวชนโรงเรียนเทศบาลสองหนองบัว จังหวัดอุบลราชธานี เป็นกลุ่มมัคคุเทศก์น้อย นำกลุ่มชาวต่างชาติท่องเที่ยวชมศิลปะและความงดงามของเทียนพรรษา เมืองอุบลราชธานี และเล่าให้นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นให้มีความรู้เรื่อง งานประเพณีแห่เทียนพรรษา ซึ่งถือว่าเป็นงานบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจังหวัดอุบลราชธานี
ชาวอุบลราชธานีทำต้นเทียนประกวดประชันความงาม ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2470 จนเมื่อปี พ.ศ. 2520 จังหวัดอุบลราชธานีจัดงานสัปดาห์ประเพณีแห่เทียนพรรษาให้เป็นงานประเพณีที่ยิ่งใหญ่ นอกจากจะแสดงออกถึงความยึดมั่นสืบสานงานบุญทางพระพุทธศาสนาอย่างเคร่งครัดของชาวเมืองอุบลราชธานีแล้ว ยังเป็นงานที่แสดงออกถึงวิวัฒนาการด้านศิลปะของสกุลช่างเมืองอุบลราชธานีอีกด้วย เนื่องจากบรรดาช่างศิลป์เมืองอุบลราชธานีที่มีอยู่มากมายหลากหลายแขนง และผลิตงานด้านศิลปะอย่างต่อเนื่องตลอดมา ไม่ว่าจะเป็นงานศิลปะร่วมสมัย งานหัตถกรรมพื้นบ้าน และงานก่อสร้างตกแต่งโบสถ์วิหารต่างๆ จะใช้โอกาสในช่วงเทศกาลนี้กลับมาทดสอบ ทดลองและประลองฝีมือเชิงช่างผ่านต้นเทียนพรรษา
ต้นเทียนพรรษาที่ประกวดในงานประเพณีแห่เทียน มี 2 ประเภท ได้แก่ ประเภทแกะสลัก และประเภทติดพิมพ์ ซึ่งประเภทแกะสลักนั้น วัดพระธาตุหนองบัว ถือว่ามีชื่อเสียงอย่างยิ่งและได้รับรางวัลการันตีทุกปี
นอกจากความงามของประติมากรรมเทียนพรรษาประเภทแกะสลักของจังหวัดอุบลราชธานีแล้ว ยังมีต้นเทียนพรรษาประเภทติดพิมพ์ซึ่งวัดบูรพา ถือว่าขึ้นชื่อด้านงานฝีมือที่ละเอียดอ่อนและได้รับรางวัลการันตีทุกปีด้วยเช่นกัน
คุณลุงแก้ว อาจหาญ ช่างฝีมือระดับชั้นครูแห่งวัดบูรพาเล่าว่า “เสน่ห์ของต้นเทียนพรรษาประเภทติดพิมพ์แห่งวัดบูรพาอยู่ที่ทุกคนในชุมชนสามารถมีส่วนร่วมได้ ทั้งการต้มเทียน และสลักลวดลายต่างๆ ไปจนถึงการติดลวดลายบนเทียน”
จึงไม่น่าแปลกใจที่เราได้เห็นเยาวชนในชุมชนวัดบูรพา ขะมักเขม้นกับการแกะลวดลายจากขี้ผึ้ง ทั้งลายประจำยาม ลายพนม ลายกระจังรวน ลายกาบบัว ลายรักร้อย และอีกหลากหลายลวดลาย ที่สะท้อนความงามแบบไทยที่หาชาติใดเสมอเหมือน
งานนี้แม้แต่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ได้มาเยือนชุมชนแห่งนี้ยังอดไม่ได้ที่จะแสดงฝีมือและร่วมเป็นส่วนหนึ่งของต้นเทียนพรรษาวัดบูรพา
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2553
คำถาม
1. การประกวดทำต้นเทียนของชาวอุบลราชธานี ในชุมชนวัดบูรพา มีการแกะลวดลายจากขี้ผึ้งเป็นลาย
อะไรบ้าง (วิธีคิดแบบแยกแยะองค์ประกอบ)
2. ในข่าวนี้ แสดงถึงการมีส่วนร่วมของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดบ้าง (วิธีคิดแบบแยกแยะองค์ประกอบ)
3. ประเพณีแห่เทียนพรรษา มีผลต่อการดำเนินชีวิตของคนไทยในด้านใดบ้าง อธิบาย (วิธีคิดแบบวิภัชชวาท)
ข่าวที่ 3 ชิงชัยฟิสิกส์โอลิมปิก
ออกเดินทางเป็นตัวแทนประเทศ เข้าร่วมชิงชัยฟิสิกส์โอลิมปิกวิชาการกันแล้ว ณ กรุง ซาเกร็บ ประเทศโครเอเชีย ระหว่างวันที่ 17-25 ก.ค. หลังได้รับคัดเลือกจากสถาบันส่งเสริมการ สอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ซึ่งผลงานเมื่อปีที่แล้วที่เม็กซิโก เยาวชนไทยคว้ามาได้ 1 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน
ปีนี้มาร่วมส่งแรงเชียร์เด็กไทยกันอีกครั้ง เริ่มที่วี นายวีรภัทร พิทยครรชิต ชั้น ม.6 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา บอกว่า ชื่นชอบฟิสิกส์ โดยเฉพาะด้านทฤษฎี เพราะเมื่อเห็นอะไรรอบตัวเกิดคำถามหรือข้อสงสัย เพียงแค่มีกระดาษและปากกาก็หาคำตอบได้ทุกที่ ทุกเวลา เนื่องจากฟิสิกส์ช่วยสร้างจินตนาการในการมองสิ่งต่างๆ
ส่วนเคล็ดลับการเรียน วีเผยว่า หากค้นพบว่าตัวเองชอบอะไร ฝันจะทำสิ่งใด อย่ามัวแต่คิดว่าจะทำขอให้ลงมือทำด้วยความตั้งใจ เมื่อผิดพลาดก็ควรปล่อยวางกับสิ่งที่ผ่านไป
เก่ง นายนครินทร์ โลหิตศิริ ชั้น ม.5 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เล่าว่า วิชาฟิสิกส์โดยเฉพาะทฤษฎีทำให้เราได้เห็นความสวยงามของธรรมชาติผ่านสมการอันเรียบง่ายทางคณิตศาสตร์ ซึ่งจำเป็นต้องจินตนาการและทำความเข้าใจในปรากฏการณ์ต่างๆ อย่างลึกซึ้งจึงจะวิเคราะห์ออกมาได้
คุณครูวิทยาศาสตร์ควรสอนเด็กๆ ให้เข้าใจถึงแก่นและเนื้อหาสาระนั้นๆ โดยอาจมีการทดลองหรือนำปรากฏการณ์ที่เห็นได้ทั่วไป หรือน่าตื่นเต้นมากระตุ้นความสนใจเด็กจะทำให้เข้าใจง่ายขึ้น หรือเปลี่ยนความคิดมาชอบวิทยาศาสตร์ก็ได้
ตุลย์ นายชยากร พงษ์ศิริ ชั้น ม.5 โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ บอกว่าสนุกกับการเรียนรู้ฟิสิกส์ โดยเฉพาะภาคปฏิบัติ เพราะไม่น่าเบื่อ ชอบทำการทดลองต่างๆ จะพยายามเตรียมตัวให้พร้อมด้วยการฝึกฝนทำโจทย์บ่อยๆ รวมทั้งเตรียมด้านจิตใจด้วย ตุลย์มีหลักของตัวเองว่าตั้งใจเรียนในห้องเรียนให้ดีที่สุด เวลาว่างก็พักผ่อน ดูโทรทัศน์เหมือนเด็กทั่วไป
ปริ๊นซ์ นายอิสระพงศ์ เอกสินชล ชั้น ม.6 โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ กล่าวว่า การเรียนในสิ่งที่ไม่ชอบนั้น ต่อให้ตั้งใจเรียนมากแค่ไหนก็คงไปได้ไม่ไกลนัก และคงไม่มีความสุข มีแต่จะเครียดและฝืนตัวเองเกินไป
สำหรับปริ๊นซ์ วิชาฟิสิกส์คือวิชาที่เขารักและสนุกกับการเรียน และต้องการเรียนรู้ในเนื้อหาที่ลึกซึ้งขึ้น การเข้าร่วมโครงการโอลิมปิกวิชาการทำให้มีโอกาสฝึกการปฏิบัติการ ฝึกการใช้เครื่องมือต่างๆ ทำให้ค้นพบว่าการปฏิบัติการก็น่าสนใจไม่น้อยกว่าทฤษฎี ตอนนี้จึงสนใจทั้งสองด้านเท่าๆ กัน และพัฒนาไปพร้อมกันด้วย
ใบงานเสริมที่ 1
เรื่อง การคิดแบบโยนิโสมนสิการ : การคิดแบบแยกแยะองค์ประกอบ
คำชี้แจง ให้นักเรียนจับคู่กัน แล้วผลัดกันเล่าประสบการณ์ของนักเรียนที่เคยนำวิธีคิดแบบแยกแยะ
องค์ประกอบไปประยุกต์ใช้ แล้วบันทึกข้อมูลลงในตารางที่กำหนด
ลำดับที่ | เรื่องที่คิด/ประเด็นที่คิด | วิธีคิด | ผลที่ได้จากการคิด |
คำชี้แจง 1. นักเรียนจับคู่กันและร่วมกันตอบคำถาม
2. นักเรียนแต่ละคู่รวมกันเป็น 3 คู่ ตรวจสอบวิธีการคิดร่วมกันเป็นเอกฉันท์
คำถาม
ถ้านักเรียนจะเลือกซื้อสินค้าเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีราคาแพง นักเรียนจะจำแนกวิธีการเลือกซื้อสินค้าอย่างไร ที่จะทำให้ผู้ปกครองยินยอมให้ซื้อ
1. จำแนกสภาวะที่เป็นจริง ทีละด้าน ทีละประเด็น
2. จำแนกโดยส่วนประกอบ
3. จำแนกลำดับขณะ
4. จำแนกโดยสัมพันธ์กับเหตุปัจจัย
5. จำแนกโดยเงื่อนไข
6. จำแนกโดยการตอบปัญหา