สิวไม่มีหัว เป็นไต เกิดจาก

          สิวไม่มีหัว ไม่เจ็บ สิวเป็นไต ปัญหาหนักใจสำหรับผู้หญิง ถึงจะขึ้นมาแล้วไม่อักเสบ แต่ก็สร้างความรำคาญใจให้คนเป็นสิวได้ไม่น้อย

สิวไม่มีหัว หรือ สิวเป็นไต คือ สิวอุดตันที่ขึ้นมาบนใบหน้า มีลักษณะแข็งเป็นเม็ดนูน ๆ หรือตุ่มเล็ก ๆ เป็นสิวไม่มีหัว ไม่เจ็บ จะอับเสบก็ไม่อักเสบ ทำยังไงก็ไม่ยุบ และก็ไม่ยอมหายสักที  ซึ่งสิวประเภทนี้อาจเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น กรรมพันธุ์ ความเครียด การใช้ยาบางชนิด เครื่องสำอาง หรือแม้แต่สภาวะแวดล้อมต่าง ๆ ก็อาจเป็นตัวการสำคัญที่จะทำให้เกิดสิวเป็นไตขึ้นได้ ปัญหาหนักอกหนักใจแบบนี้ สำหรับสาว ๆ ที่กำลังคิดหาทางกำจัดมันให้ออกไปจากใบหน้า มาดูวิธีโบกมือลาสิวเป็นไตกันเลย

สิวเป็นไต ไม่มีหัว รักษายังไง ?

          สำหรับการกำจัดสิวเป็นไต สาว ๆ สามารถทำเองได้โดยการทายาที่มีฤทธิ์กำจัดสิวอุดตัน ซึ่งยาส่วนใหญ่จะมีส่วนประกอบของ เบนซอยล์เพอร์ออกไซต์ (BP) หรือกรดไซลิไซลิก (BHA) ซึ่งมักจะอยู่ในรูปแบบของโลชั่นหรือครีมแบบเจล ซึ่งตัวช่วยเหล่านี้จะสามารถทำให้สิวเป็นไตยุบลงได้ เพียงแค่ทาบาง ๆ บริเวณหัวสิว แต่เมื่อสิวหายแล้วอาจเกิดรอยดำตามมาได้ ซึ่งสามารถรักษาได้ด้วยวิธีธรรมชาติ โดยการใช้กรดผลไม้ (AHA) ที่สกัดได้จากผลไม้ธรรมชาติ เช่น มะนาว ส้ม และส้มโอ มาทาบริเวณรอยดำนั้น ๆ ก็จะช่วยผลัดเซลล์ผิวและลดรอยดำจากสิวให้หายไปได้

สิวเป็นไต แดง เจ็บ อักเสบ ทำไงดี ?

          หากสิวเป็นไต สิวไม่มีหัว มีอาการอักเสบ บวมแดง และเจ็บขึ้นมา ให้บรรเทาโดยการประคบร้อน เพื่อลดอาการบวมแดง ด้วยการใช้ผ้าขนหนูสะอาดผืนเล็ก ๆ ชุปน้ำอุ่น แล้วนำมาประคบที่หัวสิวประมาณ 2-3 นาทีต่อครั้ง และให้ประคบต่อเนื่อง 2-3 ครั้งต่อวัน อาการบวมแดงของสิวเป็นไต สิวไม่มีหัวที่อักเสบจะค่อย ๆ บรรเทาลงได้ ส่วนถ้ามีอาการปวดที่หัวสิวมาก ๆ ให้ใช้การประคบเย็นแทน ด้วยการนำน้ำแข็งก้อนมาห่อด้วยผ้าขนหนูสะอาด ๆ แล้วให้ประคบที่หัวสิวครั้งละประมาณ 5-10 นาที วิธีนี้ก็จะช่วยให้อาการปวดทุเลาลงได้

วิธีรักษาสิวเป็นไต สิวไม่มีหัว ด้วยวิธีธรรมชาติ

          สำหรับใครที่อยากรักษาสิวด้วยวิธีธรรมชาติควบคู่กับการใช้ยารักษาสิวไปด้วยเพื่อให้สิวหายเร็วขึ้น ก็สามารถใช้ตัวช่วยอย่าง "น้ำผึ้ง" ช่วยได้ค่ะ เนื่องจากน้ำผึ้งจะมีสารต้านเชื้อแบคทีเรียที่มักเข้ามาอุดตันอยู่ในรูขุมขน ที่เป็นต้นเหตุของการเกิดสิวไม่มีหัว หากนำน้ำผึ้งมาทาลงบนหัวสิวประมาณ 20-30 นาทีต่อวัน และทำเป็นประจำทุกวัน อาการสิวเป็นไต ไม่มีหัวก็จะหายเร็วขึ้นได้ค่ะ

          แต่ถ้าหากใช้วิธีเหล่านี้แล้วยังไม่ได้ผล ก็ถึงเวลาที่จะต้องจัดการกับสิวเป็นไตด้วยการไปปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรับการรักษาสิวอุดตันที่เหมาะสมกับตัวเอง ซึ่งสามารถรักษาได้หลายวิธี เช่น กดสิว ฉีดสิว ฉายแสงด้วยเลเซอร์ หรือทำทรีตเม้นต์ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสภาพสิวของแต่ละคน สำหรับวิธีนี้ถึงแม้ว่าจะต้องเสียเงินมากหน่อย แต่ก็แลกกับความสบายใจและอาจเป็นวิธีการรักษาสิวที่หายได้รวดเร็วที่สุดนั่นเอง

          อย่างไรก็ตาม โบกมือลาสิวเป็นไตไปได้แล้ว อย่าลืมรักษาความสะอาดกันด้วยนะคะสาว ๆ เพราะสิ่งสำคัญที่สุดคือ ควรป้องกันไม่ไห้สิวมาเยือนบนใบหน้าเราได้อีก ฉะนั้นจึงควรล้างหน้าให้สะอาดอย่างสม่ำเสมอ แต่ถ้าหากเริ่มกลับมาเป็นสิวอีกครั้งควรหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าด้วยเครื่องสำอาง  เพราะอาจจะทำให้เกิดการอุดตันของสิวมากยิ่งขึ้นค่ะ

สาเหตุของสิวเป็นไตบนผิวหน้าของเราอาจเกิดได้หลายสาเหตุ โดยสิวเป็นไตจะมีลักษณะที่เป็นสิวไม่มีหัวที่เกิดจากการอุดตันของรูขุมขนที่มีสิ่งสกปรกอยู่ด้านใน และจะถูกจัดอยู่ในกลุ่มของสิวอักเสบ (Inflammatory Acne) และมีสาเหตุปัจจัยต่างๆที่ทำให้สามารถเกิดสิวเป็นไตขึ้นได้หลายสาเหตุ เช่น

1.การใช้เครื่องสำอาง

สิวที่เกิดจากการใช้เครื่องสำอางอาจเกิดอาการแพ้สารบางชนิดในเครื่องสำอาง หรือการใช้แปรงแต่งหน้าที่ใช้มาเป็นเวลานาน รวมถึงการทำความสะอาดเครื่องสำอางไม่เพียงพอ จนทำให้เกิดการสะสมของแบคทีเรียทำให้เกิดสิวอุดตันเป็นไตใต้ผิวหนังได้

2.ความเครียด

สิวที่เกิดจากความเครียด มักเกิดจากเกิดความรู้สึกหรืออารมณ์หดหู่ หงุดหงิด ถ้าหากเกิดความเครียดต่อเนื่องสะสมเป็นเวลานาน อาจส่งผลกระทบออกมาบนผิวหน้าได้ คือ เกิดอาการคัน และเมื่อเกิดความเครียด ร่างกายของเราจะผลิตฮอร์โมน เช่น คอร์ติโซล (Cortisol) และ แอนโดรเจน (Androgens) ฮอร์โมนนูโรเปปไทด์ (Neuropeptides) ฮอร์โมนเอนโดรฟีน (Endorphins) และ อินซูลิน (Insulin) และ ฮอร์โมนไซโตคินส์ (Cytokines) ออกมามากขึ้น ซึ่งมีส่งผลกระทบกับการทำงานของต่อมไขมันและเป็นต้นเหตุให้เกิดสิวได้ ทำให้มีแนวโน้มจะเกิดสิวอุดตันอักเสบขึ้นได้ง่ายมากขึ้น

3.มลภาวะและสภาพอากาศ

ฝุ่นต่างๆและมลภาวะรอบตัวเราก็เป็นอีกตัวการสำคัญอย่างหนึ่ง ที่สามารถซึมเข้าผ่านชั้นผิวหนังและทำร้ายผิวได้ และสิ่งสกปรกและฝุ่นละอองต่างๆ อาจจะเข้าไปอุดตันรูขุมขนบนใบหน้าทำให้เกิดเป็นผื่นเม็ดเล็กๆ หรือเกิดเป็นสิวอุดตันขึ้นมา

4.กรรมพันธ์ุ

สิวจากกรรมพันธ์ุสามารถเกิดขึ้นได้โดยถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ในกรณีที่มีบุคคลในครอบครัวมีสภาพผิวมันและรูขุมขนกว้างจะมีโอกาสเป็นสิวได้มากกว่าผู้ที่มีผิวประเภทอื่นๆ โดยทั่วไปผู้ที่ผิวมันจะมีรูขุมขนกว้าง ผิวหยาบ รวมทั้งหน้ามันเยิ้ม ทำให้ง่ายต่อการเกิดสิวอุดตันมากกว่า

5.การรับประทานอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง

สิวที่เกิดจากการรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันเป็นส่วนประกอบหลัก ความหวานนั้นจะเข้าไปในร่างกายและเปลี่ยนเป็นกรดจนทำให้เซลล์ภายในเกิดอาการอักเสบ และทำให้ระบบฮอร์โมนเสียสมดุล จนอาจทำให้เป็นสิวได้ง่ายมากขึ้นกว่าเดิม